(Home with God) บทที่ 3
ความทรงจำที่สาม
“เธอคิดว่าการตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับเจตจำนงของเธอหรือไม่?”
บทที่ 3
N: ผมคิดว่าพระองค์พูดความจริงมาตลอดนะครับ แต่นั่นคงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อสำหรับหลาย ๆ คน
G: มีหลักการพื้นฐานในการดำเนินชีวิตซึ่งเราจะพิจารณาให้ลึกลงไปอีกสักหน่อย มันอาจทำให้ง่ายต่อการยึดถือความทรงจำเหล่านี้ไว้ในความจริงของเธออย่างมั่นคงมากขึ้น
เมื่อเราสำรวจหลักการพื้นฐานเหล่านี้อย่างละเอียดมากขึ้น เธอจะได้รู้ว่าสิ่งที่เธอเรียกว่า “ความตาย”คือช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ที่ทรงพลัง
N: เห็นมั้ยครับตอนนี้? มีแนวคิดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ความตายเป็น “ช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์” หรือครับ?
G: ความตายจะเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดครั้งหนึ่งที่เธอเคยพบเจอ มันเป็นเครื่องมือที่เธอจะนำไปใช้ตามที่ตั้งใจไว้ ความตายสามารถสร้างบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาได้ ทั้งหมดนี้จะได้รับการอธิบายให้เธอเข้าใจเช่นกัน
N: ความตายเป็นเครื่องมือเหรอครับ? ความตายไม่ได้เป็นแค่ “ประตูเข้าออก” เหรอครับ?
G: ความตายคือประตูเข้าออก แต่มันเป็นประตูวิเศษ เพราะพลังงานที่เธอเดินผ่านประตูนั้นจะเป็นตัวกำหนดว่าอีกด้านหนึ่งมีอะไรอยู่
N: โอเคครับ โอเค ช้าก่อนครับ พระองค์กำลังทำให้ผมเกือบลืมหายใจ เราชะลอตรงนี้สักหน่อยได้ไหมครับ ย้อนกลับไปและเติมคำในช่องว่างสักสองสามช่องได้ไหม? สิ่งที่พระองค์เพิ่งพูดไปทำให้ผมเกิดคำถามมากมายเลยครับ
G: เราจะอธิบายถึงมันทั้งหมด เราจะตอบคำถามทุกคน
N: เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นเริ่มต้นด้วยแนวคิดของการใช้ความตายเป็นเครื่องมือ แนวคิดนั้นใหม่สำหรับผม เครื่องมือคือสิ่งที่มีไว้ใช้ตามวัตถุประสงค์ เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากใช้ แต่ผมไม่อยากตาย ไม่มีใครอยากตายหรอกครับ
G: ทุกคนอยากตาย
N: ทุกคนอยากตาย?
G: แน่นอน เธอคิดว่าการตายเป็นสิ่งที่ขัดต่อเจตจำนงของเธอหรือ?
N: คนส่วนใหญ่น่าจะคิดอย่างนั้นนะครับ
G: ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นขัดกับเจตจำนงของเธอ มันเป็นไปไม่ได้ นี่คือ...
ความทรงจำที่สาม
“เธอไม่สามารถตายโดยขัดต่อเจตจำนงของเธอได้”
N: ถ้าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง มันคงเป็นเรื่องน่าสบายใจที่ผมจะได้รับการเยียวยาอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ผมจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงได้ยังไงครับ ถ้าความตายคือประสบการณ์ของผมที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นโดยที่ผมไม่อยากให้มันเกิด
G: ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยที่เธอไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
N: ไม่มีสิ่งใดเลยเหรอครับ?
G: ไม่มี
เธอสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่ต้องการให้มันเกิด แต่มันไม่ใช่แบบนั้น การที่เธอคิดแบบนั้นนั่นหมายถึงเธอกำลังปล่อยให้ตัวเองคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ
ไม่มีอะไรฉุดรั้งการวิวัฒน์ของเธอได้มากไปกว่าความคิดนี้ แนวคิดเรื่องการตกเป็นเหยื่อถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการรับรู้ที่จำกัด การตกเป็นเหยื่อที่แท้จริงไม่สามารถดำรงอยู่ได้
N: เป็นเรื่องยากนะครับที่จะบอกว่าลูกสาวของใครก็ตามที่ถูกข่มขืนหรือคนทั้งหมู่บ้านถูกกวาดล้างด้วยการกระทำที่เลวร้ายอย่าง “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โดยที่ไม่มีใครตกเป็นเหยื่อ
G: การพูดในลักษณะนี้กับผู้คนในขณะที่พวกเขาตกอยู่ท่ามกลางความทุกข์คงไม่เป็นประโยชน์อะไร ในช่วงเวลาดังกล่าวจงอยู่กับพวกเขาด้วยความเมตตากรุณาอย่างสุดซึ้ง ห่วงใย และเยียวยาด้วยความรัก อย่าเสนอคำพูดทางจิตวิญญาณหรือคำพูดทางปัญญาซ้ำซากเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขา รักษาความเจ็บปวดก่อนแล้วค่อยรักษาความคิดที่สร้างความเจ็บปวด
แน่นอนว่าในความหมายของมนุษย์ทั่วไป มีคนที่ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์และสถานการณ์ที่เลวร้ายในชีวิต ประสบการณ์ของการตกเป็นเหยื่อนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงเฉพาะในบริบทของความปกติ ดังนั้นการตระหนักรู้ของมนุษย์จึงมีข้อจำกัดมาก
เมื่อฉันบอกว่าการตกเป็นเหยื่อที่แท้จริงไม่มีอยู่จริง นั่นคือฉันกำลังพูดจากระดับการตระหนักรู้ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่นี่เป็นระดับการตระหนักรู้ที่มนุษย์สามารถบรรลุได้เมื่อความเจ็บปวดของพวกเขาได้รับการเยียวยาแล้ว
N: ผมคิดว่าคำพูดของพระองค์คงเป็นเรื่องยากสำหรับหลาย ๆ คนที่จะยอมรับได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเจ็บปวดทางอารมณ์หรือไม่ก็ตาม
G: สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ศาสนาดั้งเดิมเกือบทั้งหมดในโลกพูดกันมาหลายศตวรรษ พวกเขาประกาศว่า “ความลึกลับคือหนทางของพระเจ้า” “จงมีศรัทธาในแผนการที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า”
ในบทสนทนานี้ เราจะมีโอกาสสำรวจความคิดเกี่ยวกับแผนการที่สมบูรณ์แบบนั้น และเราจะมาดูกันว่าจิตวิญญาณที่แตกต่างกันจะมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอย่างไร เพื่อสร้างผลลัพธ์ในชีวิตส่วนบุคคลและชีวิตส่วนรวมบนโลกในวิธีที่เฉพาะเจาะจงและสมบูรณ์แบบ และสำหรับเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงและสมบูรณ์แบบนั้น อันที่จริงฉันกำลังจะขอให้เธอยกตัวอย่างเรื่องนั้นให้กับฉัน
N: พระองค์น่ะหรือครับ?
G: ใช่ แล้วเธอจะรู้ในสิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงเมื่อฉันทำ สำหรับตอนนี้ จงสงบใจของเธอด้วยการรู้ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นพร้อมกับความสมบูรณ์แบบ
N: ผมจะพยายามครับ ผมจะพยายามถือความคิดนั้นไว้และโอบกอดมันไว้ในใจอย่างที่พระองค์ขอ แต่พระองค์กำลังไปเร็วมาก เรามีส่วนร่วมในบทสนทนานี้เพียงไม่นานและพระองค์ก็เข้าสู่…ผมขอพูดได้ไหม…พระองค์กำลังนำบทสนทนานี้ล่องลอยไปในอากาศ ผมไม่ได้ดูหมิ่นนะครับ แต่บทสนทนานี้กำลังจะพาผมไปที่ไหน?
G: ไปยังที่ที่เธออยากไปมาตลอด
N: ที่นั่นคือ…?
G: ไปสู่ความจริง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น