(Home with God) บทที่ 8

 


ความทรงจำที่ห้า


“เธอกลัวที่จะตายและเธอกลัวที่จะมีชีวิตอยู่ แล้วไหนล่ะคือหนทางแห่งการรอด!”


บทที่ 8


 N: ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคำพูดเหล่านี้ ทุกคำที่พระองค์พูดในเรื่องนี้ จะสามารถนำผมไปสู่ความจริงเกี่ยวกับชีวิตและความตายได้?


 G: เธอไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับคำพูดเหล่านี้เพื่อที่จะนำไปสู่ความจริงของเธอ


 N: ไม่จำเป็นเหรอครับ? 


 G: ไม่จำเป็น แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยทั้งหมดกับคำพูดของฉัน แต่มันจะนำไปสู่ความจริงของเธอ - เธอจะพบเส้นทางกลับบ้าน เพราะถ้าเธอไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉัน เธอจะรู้ว่าเธอควรเห็นด้วยกับอะไร จากนั้นเธอก็จะใช้เส้นทางอื่น เธอจะไปอีกเส้นทางหนึ่ง และอีกเส้นทางหนึ่ง จนกว่าเธอจะค้นพบหนทางออกจากความสับสนนี้และกลับบ้านได้


 N: ผมคิดว่านั่นเป็นวิธีที่จะได้ผลทั้งหมดครับ


 G: นั่นเป็นวิธีที่จะได้ผลทั้งหมด ทั้งชีวิตของเธอพาเธอกลับบ้านมาหาฉัน ดังนั้นการอวยพรให้ทุกเหตุการณ์ ทุกคน และทุกช่วงเวลานั้นถือเป็นความศักดิ์สิทธิ์


 แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์นั้น แม้ว่าเธอจะไม่ชอบคน ๆ นั้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีความสุขในช่วงเวลานั้นก็ตาม แต่ทั้งหมดก็มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมัน เพราะชีวิตให้ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตผ่านกระบวนการของตัวชีวิตเองและไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์มากไปกว่าการรู้ จากนั้นก็ประสบกับสิ่งที่ชีวิตบอกเราเกี่ยวกับตัวเราเอง


 ดังนั้นการมีบทสนทนานี้ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่มันจะนำเธอไปสู่ความจริงและนำไปสู่เส้นทางกลับบ้านของเธอ เธอจะถูกนำไปสู่เส้นทางนั้นด้วยหากเธอเห็นด้วยกับการสนทนานี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดการสนทนานี้จะพาเธอไปสู่ที่ที่เธอต้องการ


 N: เส้นทางทั้งหมดนำพวกเรากลับไปสู่บ้าน


 G: ทุก ๆ เส้นทาง 


 N: และแต่ละเส้นทางก็จะมี “เครื่องหมายบนต้นไม้” เป็นของมันเองเพื่อช่วยนำทางผมให้ไปที่นั่น


 G: แม่นแล้ว ตอนนี้เธอกำลังเข้าใจ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องหมายบนต้นไม้ของเธอเอง รอบ ๆ ตัวเธอไม่มีอะไรที่เธอไม่เคยวางเอาไว้


 แต่บางครั้งเธอก็จำเครื่องหมายของตัวเองไม่ได้ หากเธอมองพวกมันจากมุมที่ต่างออกไป พวกมันอาจจะดูแตกต่างจากเธอ เธออาจมองเครื่องหมายนั้นว่ามีคนอื่นวางพวกมันไว้ที่นั่น


 แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเครื่องหมายชีวิตของเธอ โดยเฉพาะเครื่องหมายที่เธอเรียกว่า “แผลเป็น” ระวังอย่าคิดว่ามีคนอื่นวางมันไว้ที่นั่น นั่นจะทำให้เธอกลายเป็นเหยื่อและคนอื่นกลายเป็นผู้ร้าย เพราะอย่างที่ฉันได้บอกเธอไปแล้วว่าในชีวิตไม่มีเหยื่อและไม่มีผู้ร้าย จงจำไว้เสมอ


 N: เพื่อนที่วิเศษของผม เอลิซาเบธ คือเบลอร์-รอสส์ (Elisabeth Kubler-Ross) เคยพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งผมรักมันจริง ๆ… 


 “หากคุณป้องกันหุบเขาจากพายุลม คุณจะไม่มีทางเห็นความงามของงานแกะสลักของพวกมัน”


 G: ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึงก่อนหน้านี้ที่ฉันพูดว่าทุกชีวิตนั้นยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับคำว่า “ความตาย” นั้นวิเศษมาก ทั้งหมดเป็นเรื่องของมุมมอง ซึ่งมุมมองจะสร้างการรับรู้


 N: ใช่ครับ


 G: ไม่ ไม่ อย่าแค่พูดว่า “ใช่” จงตรวจสอบข้อความสุดท้ายนั้นให้ละเอียดมากขึ้น มองให้ลึกมากขึ้น นั่นเป็นหนึ่งในข้อความสำคัญที่สุดที่ฉันจะอธิบายที่นี่ ฉันได้พูดว่า…


 “มุมมองสร้างการรับรู้”


 N: วิธีที่เรามองบางสิ่งก่อให้เกิดวิธีที่เราเห็นมัน


 G: แน่นอน ขอบใจ


 ดังนั้น ถ้าเธอมองว่าตัวเองเป็นเหยื่อ เธอจะเห็นว่าตัวเองเป็นเหยื่อ หากเธอมองว่าตัวเองเป็นผู้ร้าย เธอก็จะเห็นว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น และหากเธอมองว่าตัวเองเป็นผู้ร่วมสร้างในกระบวนการสร้างร่วมกัน นั่นก็จะเป็นวิธีที่เธอจะเห็นตัวเองเช่นกัน


 ถ้าเธอมองทุกเหตุการณ์ในชีวิตของเธอ รวมถึงความตาย เป็นดั่งของขวัญ เธอจะเห็นว่ามันเป็นสมบัติที่ให้เธอตลอดเวลาและนำเธอไปสู่ความสุข หากเธอมองเหตุการณ์ใด ๆ รวมถึงความตายเป็นโศกนาฏกรรม เธอจะโศกเศร้าตลอดไปและเธอจะไม่ได้รับอะไรจากความตายเลยนอกจากความเศร้าโศกชั่วนิรันดร์


 สิ่งเหล่านี้จึงนำพวกเราไปสู่...

 

ความทรงจำที่ห้า


“ความตายไม่เคยเป็นโศกนาฏกรรม มันเป็นของขวัญเสมอ”

 

 

 G: ตอนนี้เรามามุ่งเน้นถึงเรื่องนี้กัน มุ่งเน้นไปยังเหตุการณ์ที่เธอเรียกว่า “ความตาย” เพราะถ้าเธอเห็นว่าสิ่งนี้เป็นความจริงเกี่ยวกับความตาย เธอจะสามารถเห็นได้ในไม่ช้าว่านี่เป็นความจริงเกี่ยวกับทุกเหตุการณ์อื่น ๆ ในชีวิต

 

 N: หมายความว่า ถ้าผมเห็นแม้แต่ความตายว่าเป็นของขวัญแทนที่จะเป็นโศกนาฏกรรม ผมก็สามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผม – ที่เป็น “ความตายเล็ก ๆ น้อย ๆ” - เป็นของขวัญได้เช่นกัน... สิ่งที่เรียกว่าเลวร้ายทั้งหมดที่ผมได้ถูกกระทำหรือที่ผมทำไว้กับคนอื่น จากนั้นจะไม่มีความเศร้าโศกอีกต่อไป

 

 G: ไม่ใช่สำหรับเธอและไม่ใช่สำหรับใครก็ตาม

 

 เมื่อเธอใช้ชีวิตใน “ความตาย” ของเธอทั้งหมดให้ดี นั่นคือเธอปล่อยให้คนอื่นอยู่ร่วมกับความตายของเธออย่างดี รวมถึงพี่น้องของเธอด้วย

 

 N: ว้าว ผมต้องพูดแล้วล่ะครับ มันเป็นไปไม่ได้เสมอไปนะครับที่จะ “ตายดี” ผมกำลังพูดถึง “ความตายครั้งใหญ่” ผมหมายความว่าบางครั้งเราก็แค่กลัวที่จะตาย

 

 G: แน่นอนเธอเป็นเช่นนั้น และเมื่อเธอกลัว “ความตายเล็ก ๆ น้อย ๆ” - ซึ่งหมายถึงความพ่ายแพ้หรือการสูญเสียใด ๆ - นั่นหมายความว่าเธอก็กลัวที่จะมีชีวิตอยู่เช่นกัน เธอกลัวที่จะตายและเธอก็กลัวที่จะมีชีวิตอยู่ แล้วไหนล่ะคือหนทางแห่งการรอด! 


 N: โปรดช่วยพวกเราด้วยครับ!

 

 G: เธอคิดว่าฉันมาทำอะไรที่นี่? ฉันใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้เธอกำจัดความกลัวใน “ความตายครั้งใหญ่”เพราะเมื่อเธอไม่กลัวความตาย เธอก็จะไม่กลัวอะไรอีกต่อไป และเธอก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างแท้จริง

 

 N: แล้วทำไมเราทุกคนถึง “กลัวแทบตาย” ที่จะตายกันล่ะครับ?

 

 G: เพราะสิ่งที่เธอได้ถูกสั่งสอนมาเกี่ยวกับความตาย เพราะสิ่งที่เธอได้ยินมาจากการบอกเล่า

 

 เมื่อเธอยึดถือความตายในรูปแบบใหม่ เธอจะได้สัมผัสกับความตายในรูปแบบใหม่ และนั่นอาจเป็นของขวัญที่ดีที่ไม่เพียงแต่ให้กับตัวเธอเองเท่านั้น แต่ยังมอบให้กับคนที่เธอรักด้วย

 

 N: ผมมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อแอนดรูว์ ปาร์กเกอร์ (Andrew Parker) เขาพักอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียและมีภรรยาที่ยอดเยี่ยม – ชื่อ “พิพ (Pip)" ซึ่งคนที่รักพิพ - ก็ได้ทำเช่นนั้น พิพเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวันส่งท้ายปีเก่าหลังการมาถึงของปีพ.ศ. 2548 แอนดรูว์แชร์อีเมลจำนวนมากที่เขาส่งให้เพื่อน ๆ ของเขาและภรรยากับผม มันแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรากำลังพูดถึงในตอนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในอีเมลของเขาแอนดรูว์กล่าวว่า


  พิพเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยมี เธอเข้ามาในชีวิตของผมในช่วงเวลาที่ผมคิดว่าผมรับมือกับมันได้ทั้งหมดและไม่ได้ เธอนอนอาบแดดใต้แสงจันทร์ในคืนแรกที่เราเชื่อมต่อกันจริง ๆ และผมรู้ว่าถ้าผมใช้เวลาร่วมกับเธอ ผมจะแต่งงานกับเธอและมีลูก ช่างเป็นพระพรของเธอ! มะเร็งในเต้านมที่สวยงามของเธอเริ่มต้นการเดินทางในความสัมพันธ์ของเรา ความกล้าหาญ และความเข้มแข็งของเธอแสดงให้ผมเห็นถึงเส้นทางนั้น


 รอยยิ้มและความเงียบของเธอทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของเธอจะส่งผลต่อผมมากที่สุดก็ตาม ความรักของเธอแข็งแกร่งราวกับต้นโอ๊กอันยิ่งใหญ่ เหมือนดั่งมหาสมุทรสีฟ้าลึก และทรงพลังพอ ๆ กับกระแสน้ำในส่วนลึกของมหาสมุทรนั้น 


 ความนิ่งคือความมุ่งมั่นของเธอที่มีต่อผมและวิธีที่เธอเห็นผม เธอมองข้ามขอบเพชรที่หยาบกร้าน Newcastle drawl การสบถ และพฤติกรรมที่ไม่สุภาพของผมที่เป็นร่องรอยจากเมื่อวาน เธอเห็นแต่สิ่งที่ดีที่สุดในตัวผมและมีวิธีดูแลอย่างอ่อนโยน


 การรักษาของเธอนั้นโหดร้ายเหมือนกับการรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิมของเรา การผ่าตัดเคมีบำบัดและการฉายรังสี ฮอร์โมนและวัยหมดประจำเดือนในช่วงต้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของผู้หญิงที่เป็นความรักของผม ความเจ็บปวดจากการรักษาดังกล่าวไม่เคยทำให้เธอเกิดความไม่พอใจ และเมื่อลูก ๆ เกิดมา เธอก็เปล่งประกายถึงความเป็นแม่ มีพลังของผู้หญิง และมีความรักที่ลึกซึ้ง


 ทุกคนสัมผัสได้ถึงความงามของเธอทั้งจากภายในและภายนอก เมื่อเราพบว่ามะเร็งมีการแพร่กระจายไปยังกระดูกในระยะเวลาเจ็ดเดือนหรือหลังจากที่ให้กำเนิดลูกแฝดของเรา เธอก็ขอโทษ ไม่ใช่ตัวเธอเองที่เธอนึกถึงในตอนนั้น เธอนึกถึงผมกับลูกผู้ชายสามคนของเรา จากนั้นเธอก็ลุกขึ้น เริ่มต้นอีกครั้ง และเปิดวาล์วรัก!


 การเอาเต้านมที่สองออกทำให้เธอเจ็บเล็กน้อย มันเป็นความรู้สึกของเธอเกี่ยวกับความเป็นผู้หญิงและการถูกพรากมันจากไป แม้ว่าเธอจะไม่เคยดูเป็นผู้หญิงสำหรับผมมากไปกว่าในช่วงหลังการผ่าตัดก็ตาม เมื่อเราพาเด็ก ๆ เข้ามาหาเธอในวันรุ่งขึ้น เธอก็ยกลูก ๆ ของเธอไปไว้ที่หน้าอกของเธอที่มีบาดแผลทีละคน ซึ่งเธอไม่แสดงสีหน้าแห่งความเจ็บปวดเลย


 ความเข้มแข็งของเธอถูกเผาไหม้ในจิตสำนึกของผม ความไม่เห็นแก่ตัวและความกล้าหาญของเธอคือความสบายใจของผม ตอนนี้ผมมีแต่ทรงจำของเธอ และยังคงมีอีกยาวไกลในชีวิตของผม


 ในอีกเกือบสามปีข้างหน้าที่เธอจะอยู่ โอ้เธอจะอยู่ได้อย่างไร! ด้วยธุรกิจและอาชีพการงานของผมที่พังทลายและการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อค้นหาตัวเองของผม เส้นทางและทิศทางของผม เธอได้จัดสรรพื้นที่ให้ผมเติบโตอย่างเงียบ ๆ หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของผมด้วยความรัก การยอมรับ และการชี้นำที่มั่นคง เธอไม่เคยปล่อยผมไปกับอะไรเลย! พระเจ้า ผมเคารพเธอที่เป็นเช่นนี้! 


 หกเดือนสุดท้ายของชีวิตเธอดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาอันนิรันดร์ ตอนนี้ผมต้องการเวลาอีกสักครู่ต่อหน้าเธอ ผมปรารถนาที่จะรักเธอหากได้รับโอกาส ในแต่ละนาที ทุกวินาที ถ้าผมมีเวลาเหล่านั้นอีกครั้ง 


 เดือนและวันที่ผ่านมาของพิพเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม เธอค่อย ๆ ก้าวออกจากชีวิตของผม ไม่มีร้านอาหารสุดหรูอีกต่อไป ถึงเวลาที่ผมต้องทำอาหารและทำความสะอาด “ใครจะเป็นคนหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นถ้าคุณทิ้งมันไว้ที่นั่น”…น้ำเสียงที่ไพเราะของเธอดังก้องอยู่ในสมองของผม ผมต้องเก็บที่นอนและซักผ้า


 พิพทำงานเสร็จลุล่วงไปได้อย่างน่ายินดี เธอสอนผมด้วยความเป็นอยู่ของเธอในสมัยนั้น เธอปลอบโยนผมในขณะที่ผมปลอบโยนเธอ ผมไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับเธอและรู้สึกได้รับพรที่มีโอกาสให้เธอ 


 แล้วก็ถึงเวลาพาเธอกลับบ้าน พาเธอกลับไปยัง Perth กลับไปหาเพื่อน ๆ และครอบครัวของเธอ ผมเหลือบมองเธอระหว่างเที่ยวบินห้าชั่วโมงของเรา และความเจ็บปวดก็ปรากฏชัด การเดินทางที่ยากลำบากเช่นนี้ ไม่มีใครรู้นอกจากผม! เธอจัดการมันตามปกติด้วยศักดิ์ศรีและการดูแลผู้อื่นอย่างสูงสุด เรายืนยันว่าเราจะพาเธอไปเที่ยวที่เกาะร็อตเนสต์ ว่ายน้ำในมหาสมุทรอินเดียที่มีสีฟ้าคราม เรายังคงชื่นชมความงามและพรของชีวิต และสิ่งที่เรียบง่าย


 วันสุดท้ายของเธอคือการเดินทางตามสัดส่วนในพระคัมภีร์ เป็นเวลาสี่สิบวันในทะเลทราย เธอจากไปเมื่อเธอเลือกเวลาในหนทางของเธอ เมื่อเธอรู้ว่าเธอจะต้องไม่เป็นไร เธอให้ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ผม คือการได้อยู่กับเธอ แบ่งปันพื้นที่และจับมือกันเมื่อเธอจากไป


 เวลา 00:50 น. วันส่งท้ายปีเก่า เธอบอกว่าเธอต้องการที่จะทำมันจนกว่าปีใหม่จะมาถึง และเธอก็ทำอย่างนั้น ความเจ็บปวดจากการเฝ้าระแวดระวัง ความกลัวที่จะทำให้ถูกต้อง การทำให้มากพอและพูดสิ่งที่ถูกต้องทั้งหมดไปกับจิตวิญญาณของเธอ! เธอจากไปเหมือนอย่างที่เธอเคยเป็นมาตลอดชีวิต และทิ้งผมไว้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมเป็นใครและทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอสำหรับผมคือการนำความกลัวไปพร้อมกับเธอ


 วันเวลาของผมเปลี่ยนไปแล้ว มันจริงที่ว่าเธออยู่ไม่ไกล! เด็ก ๆ ของเรากำลังเผชิญกับความยากลำบาก ความรักที่พิพมีนั้นไม่สามารถแทนที่ได้ง่าย ๆ


 เรายังคงเติบโตไปด้วยกัน ของขวัญแห่งชีวิตของเธอ เหมือนดอกบัวที่ค่อย ๆ บานทีละกลีบ ขณะที่รูปแบบชีวิตของเราถูกหล่อเลี้ยงด้วยความรักของผู้หญิงคนหนึ่ง คำพูดของผมเหล่านี้มีขึ้นเพื่อสื่อถึงความรักของผม ถึงแม่ของลูก ๆ ของผม ถึงคุณ และถึงทุก ๆ คน เราดีกว่าสำหรับเธอที่จะอยู่ที่นี่ ผมไม่เสียใจแม้แต่นาทีเดียว และผมไม่โทษใคร


 เราทุกคนอยู่ในทุกตัวเลือกในชีวิต วิธีที่เรากระทำหรือตอบสนองต่อชีวิตของเรา ผมกับพิพเลือกความรักของเรา สัมผัสในสิ่งที่มันเป็น มันให้ชีวิตผม ผมเลือกมองในด้านความเมตตา ไม่ใช่ความสูญเสียและความเจ็บปวด โอ้ใช่ พวกเขาอยู่กับผมและเป็นความรู้สึกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อคุณก้าวผ่านความกลัวได้ คุณจะเชื่อมต่อกับความรัก ความเป็นพระเจ้า และความเป็นหนึ่งเดียวกันของเรา


 ความรักจะเยียวยา รักษาจิตวิญญาณของเรา รักษาความสัมพันธ์ของเรา และสามารถรักษาโลกของเราได้ ภรรยาของผมมอบความรักนี้ให้ผม และผมเลือกที่จะแบ่งปันกับคุณ


 ในวันปีใหม่ ผมทานอาหารเย็นกับครอบครัว จากนั้นผมก็ไปดื่มที่บ้านเพื่อนของเธอ ผมออกเดินทางประมาณ 23:40 น. และในขณะที่ผมเดินกลับบ้านได้ไม่กี่ไมล์ พิพอยู่กับผม ผมรู้สึกได้ถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์และความเป็นไปได้ ในขณะที่ผู้คนเฉลิมฉลองกันที่สวนหลังบ้าน ดอกไม้ไฟก็ดับลง และเสียงอันงดงามของพิพ ในหัวของผมก็พูดว่า “…และคุณก็พูดถูก อย่างที่คุณรู้ว่าคุณจะเป็น” สิ่งที่เธอหมายถึงนั่นคือสิ่งนั้น เธออยู่กับพระเจ้า ในจิตสำนึกส่วนรวม และเป็นที่แห่งการสร้างสรรค์อีกครั้ง 


 แล้วผมก็ร้องไห้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

(Home with God) บทที่ 13

(Home with God) บทที่ 18

(Home with God) บทที่ 17