(Home with God) บทที่ 14
“มาทำความเข้าใจให้ชัดเจนกันว่านรกไม่มีอยู่จริง สถานที่ดังกล่าวไม่มีอยู่จริง”
ตอนที่ 14
N: ผมรู้ครับว่านี่คือคำถามที่ผู้คนอยากรู้มานาน: จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เราตาย ผมต้องถามตรง ๆ และผมก็หวังว่าพระองค์จะตอบผมตรง ๆ ครับ
G: ฉันจะตอบเธอแน่นอน แต่มันจะไม่ใช่คำตอบสั้น ๆ เช่นว่าเธอจะไปสวรรค์หรือไปนรก ขึ้นอยู่กับว่าเธอใช้ชีวิตแบบไหน ฉันไม่สามารถตอบคำถามแบบนี้ได้โดยใช้ประโยคเชิงพิพากษาแค่ประโยคเดียว
N: พระองค์ต้องฝากคำตอบแบบนั้นไว้กับศาสนจักรครับ
G: ฉันไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
N: แล้วคำตอบของพระองค์คืออะไรครับ?
G: ให้ฉันเริ่มด้วยการบอกว่า จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันสำหรับทุกคน นั่นคือเมื่อเธอตาย เธอจะได้รับประสบการณ์ในสิ่งที่เรียกว่าขั้นตอนหรือระยะ และระยะแรกก็เหมือนกันสำหรับทุกคน
ในระยะแรกขณะที่เธอเสียชีวิต เธอจะได้รับประสบการณ์ทันทีว่าชีวิตนั้นได้ผ่านไปแล้ว สิ่งนี้จะเหมือนกันสำหรับทุกคน อาจมีช่วงสั้น ๆ ของความสับสน เมื่อเธอตระหนักรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่กับร่างกาย เธอถูกแยกออกจากร่างกาย
และในไม่ช้าเธอจะเข้าใจว่าในขณะที่เธอ “ตาย” ชีวิตของเธอยังไม่จบสิ้นลง ในช่วงเวลานี้เองเธอจะมีประสบการณ์และตระหนักรู้ได้อย่างเต็มที่ บางทีอาจเป็นครั้งแรกที่เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่ร่างกาย ร่างกายนั้นเป็นเพียงบางสิ่งที่เธอสามารถมีได้ แต่ร่างกายไม่ใช่สิ่งที่เธอเป็น และทันใดนั้น เธอจะเข้าสู่ระยะที่สองของการตายทันที และระยะนี้คือจุดที่เส้นทางของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป
N: แตกต่างกันยังไงครับ?
G: แตกต่างกันตามระบบความเชื่อที่เธอยอมรับก่อนตาย ซึ่งรวมถึงความแน่นอนของชีวิตที่เกิดขึ้น เมื่อเธอเข้าใจว่าเธอ “ตาย” แล้ว เธอจะรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และเธอจะเข้าใจมัน ระยะที่สองในการตายก็คือ เธอจะประสบกับสิ่งที่เธอเชื่อว่าจะเกิดขึ้นหลังความตายทันที
ตัวอย่างเช่น หากเธอเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด เธออาจประสบกับช่วงเวลาจากชีวิตชาติก่อนซึ่งเธอไม่มีความทรงจำในจิตสำนึกอยู่ก่อนหน้านี้
ถ้าเธอเชื่อว่าเธอจะถูกโอบกอดไว้ในอ้อมแขนของพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข นั่นจะเป็นประสบการณ์ของเธอ
หากเธอเชื่อในวันแห่งการพิพากษาหรือช่วงเวลาแห่งการชำระ ตามด้วยสวรรค์หรือการสาบแช่งชั่วนิรันดร์—
N: -- ครับ บอกผมทีว่าแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?
G: ตามที่เธอคาดคิด ทันทีที่เธอก้าวผ่านสภาวะหนึ่งของความตายและตระหนักรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่กับร่างกายอีกต่อไป เธอจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สองและจะพบว่าตัวเองกำลังถูกตัดสิน เหมือนกับที่เธอจินตนาการไว้ และการตัดสินก็จะเกิดขึ้น ตรงตามที่เธอจินตนาการไว้
ถ้าเธอตายโดยที่เธอคิดว่าเธอสมควรได้ไปสวรรค์ เธอจะได้รับประสบการณ์นั้นทันที และถ้าเธอคิดว่าเธอสมควรลงนรก เธอก็จะได้รับประสบการณ์ตกนรกเช่นกัน
สวรรค์จะเป็นไปตามที่เธอจินตนาการไว้ เช่นเดียวกับนรก แต่ถ้าเธอไม่มีความคิดเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของทั้งสองอย่าง เธอจะสร้างมันขึ้นมาทันที จากนั้นสถานที่เหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นเพื่อเธอในทันที
เธอจะอยู่ในประสบการณ์เหล่านี้ได้นานตราบเท่าที่เธอต้องการ
N: เยี่ยม ถ้าอย่างนั้นผมก็สามารถพบว่าตัวเองอยู่ในนรกได้!
G: มาทำความเข้าใจกันก่อน นรกไม่มีอยู่จริง ไม่มีสถานที่ดังกล่าว ดังนั้นจะไม่มีที่แบบนั้นให้เธอไป
ถามว่าตอนนี้...เธอสามารถสร้าง “นรก” ส่วนตัวสำหรับตัวเธอเองได้ไหม ถ้าเธอเลือกหรือถ้าเธอเชื่อว่านี่คือสิ่งที่เธอ “สมควร” ได้รับ คำตอบคือ ใช่ ดังนั้น เธอสามารถส่งตัวเองไปยัง “นรก” ได้ และ “นรก” นั้นจะกลายเป็นเหมือนที่เธอจินตนาการไว้หรือเป็นเหมือนกับที่เธอรู้สึกว่ามันต้องเป็นแบบนั้น แต่เธอจะไม่อยู่ที่นั่นนานกว่าที่เธอเลือกไว้
N: แล้วใครเลือกที่จะอยู่ที่นั่นไปตลอดเลยล่ะครับ?
G: เธอจะต้องแปลกใจ หลายคนอยู่ในระบบความเชื่อที่บอกว่าพวกเขาเป็นคนบาปและต้องถูกลงโทษเพราะ “ความผิด” ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะคงอยู่ในภาพลวงตาของ “นรก” โดยคิดว่านี่คือสิ่งที่สมควรได้รับ นั่นคือสิ่งที่นรก “กำลัง” มาหาพวกเขา นั่นคือสิ่งที่ “พวกเขาต้องทำ”
อย่างไรก็ตาม มันไม่สำคัญเพราะพวกเขาจะไม่ทนทุกข์ทรมานเลย พวกเขาจะสังเกตตัวเองจากระยะไกลและดูว่าเกิดอะไรขึ้น เช่นการดูวิดีโอแนะนำ
N: แต่ถ้าไม่มีความทุกข์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นครับ?
G: ทุกข์ แต่ไม่มีความทุกข์
N: ขอโทษนะครับ?
G: สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พวกเขาดูเหมือจะมีความทุกข์ แต่ส่วนของพวกเขาที่เฝ้าดูสิ่งนี้จะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ความเศร้า พวกเขาเพียงแค่สังเกต
ถ้าจะเปรียบเทียบ มันก็เหมือนกับการมองดูลูกของเธอ “เล่นบทบาท” ในฉากเล็ก ๆ น้อย ๆ ในห้องครัวของเธอ ดูเหมือนว่าเด็กกำลัง “ทุกข์ทรมาน” เพราะมือของเด็กกำลังจับที่ศีรษะหรือกุมท้องของตัวเอง โดยหวังว่าแม่จะปล่อยให้ตัวเองอยู่บ้านแทนที่จะไปโรงเรียน แต่แม่เข้าใจดีว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ความทุกข์จึงไม่เกิด
นี่ไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ชัดเจน แต่มันก็ใกล้เคียงพอที่จะทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกนั้น
ดังนั้น ผู้สังเกตการณ์เหล่านี้จะเฝ้าดูตัวเองอยู่ใน “นรก” ที่สร้างขึ้นเองนี้ แต่พวกเขาจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ของจริง และเมื่อพวกเขาได้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องเรียนรู้ (นั่นคือ เตือนตัวเองถึงสิ่งที่พวกเขาลืมไป) พวกเขาจะ “ปลดปล่อย” ตัวเองและไปสู่ความตายระยะที่สาม
N: แล้วบรรดาผู้ที่สร้าง “สวรรค์” ให้ตัวเองล่ะครับ? พวกเขาจะเข้าสู่ระยะที่สามด้วยมั้ย?
G: แน่นอน พวกเขาจะจดจำทุกสิ่งที่พวกเขาสร้างประสบการณ์จาก “สวรรค์” ของพวกเขาเพื่อให้จดจำได้ จากนั้นพวกเขาจะตระหนักรู้ถึงสิ่งเดียวกันกับที่พวกเขาตระหนักรู้ในบั้นปลายของชีวิตบนโลกนี้
N: สิ่งนั้นคืออะไรครับ?
G: สิ่งนั้นก็คือ ไม่มีอะไรให้ทำมากกว่านี้แล้ว
N: ดังนั้นพวกเขาจะไปต่อ
G: พวกเขาจะเดินหน้าต่อไป เข้าสู่ระยะที่ 3 ของการตาย แต่ฉันยังไม่อยากอธิบาย มาดูความเป็นไปได้อื่น ๆ ของ “ระยะที่สอง” กันก่อน
N: โอ้ ตกลงครับ ความเป็นไปได้อื่น ๆ มีอะไรบ้างครับ?
G: เธออาจเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เสียชีวิตในที่ที่ไม่แน่ใจว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปหลังความตายหรือไม่
N: โอ้ ใช่ ผมเข้าใจครับ โอเค แล้วจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?
G: เธอจะสับสนและไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมันจะทำให้เธอจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เธอจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ร่างกายของเธอ (สิ่งนี้เกิดขึ้นกับทุกคนใน “ระยะที่หนึ่ง”) แต่เนื่องจากเธอไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอจึงอาจใช้เวลานานมากในการพยายามหาวิธี “ดำเนินการต่อไป”
N: แล้วผมจะได้รับความช่วยเหลือหรือเปล่า?
G: เธอสามารถยอมรับความช่วยเหลือทั้งหมดได้
ในช่วงเวลาหลังจาก “ความตาย” ของเธอ เธอจะพบว่าตัวเองอยู่ต่อหน้าเทวดาหรือทูตสวรรค์ผู้เป็นที่รักที่สุด ผู้นำทาง และวิญญาณที่อ่อนโยน รวมถึงวิญญาณหรือแก่นแท้ของทุกคนที่มีความสำคัญต่อเธอในชีวิตเธอ
N: แม่ของผม? พ่อของผม? พี่ชายของผมจะอยู่ที่นั่นไหมครับ
G: คนที่เธอรักมากที่สุดจะอยู่ใกล้เธอมากที่สุด พวกเขาจะล้อมรอบเธอ
N: นั่นช่างวิเศษสุด ๆ
G: การมีอยู่ของคนที่เธอรักและเทวดาเหล่านี้จะช่วยเธอได้มาก ช่วยให้เธอ “มีหนทาง” และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และ “ตัวเลือก” ของเธอคืออะไร
N: ผมได้ยินมาว่าเราจะได้กลับมาพบกับคนที่เรารักอีกครั้งหลังความตาย และนั่นจะช่วยให้เรา “ก้าวข้าม” ผ่านมันได้ ผมดีใจมากครับที่รู้ว่ามันคือเรื่องจริง!
G: เธออาจตระหนักรู้ว่าคนที่เธอรักบางคนนั้นมีอยู่ก่อนที่เธอจะตาย
N: ก่อนที่ผมจะตาย?
G: ใช่ มีหลายคนในขณะที่พวกเขายังอยู่ในร่างกาย พวกเขาได้ประกาศให้คนอื่น ๆ ในห้องทราบว่าพวกเขากำลังเห็นคนรักของพวกเขามาหาพวกเขา
คนอื่น ๆ ในห้องนั้นมักจะพยายามเกลี้ยกล่อมคนที่กำลังจะตายให้รู้ว่าพวกเขากำลังเห็นสิ่งต่าง ๆ และพวกเขา “กำลัง” เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นจริงมาก แต่มันเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากมุมมองที่จำกัดของพวกเขา เธอจะมีมุมมองกว้างขึ้นอย่างมากหลังจากที่เธอประสบกับ “ความตาย” และบ่อยครั้งในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะตาย
N: น่าตื่นเต้นจังครับ! ตอนนี้พระองค์เกือบจะทำให้ความตายฟังดูเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นแล้ว
G: อันที่จริงความตายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น การตายอาจเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเธอ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่เธอเชื่อในชีวิต สิ่งที่เธอเชื่อคือสิ่งที่เธอจะได้รับประสบการณ์
ตัวอย่างเช่น หากเธอไม่ได้มีประสบการณ์กับวิญญาณเหล่านี้ในเวลาที่เธอเสียชีวิต นั่นอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้คาดหวัง และเพราะความเป็นไปได้ที่วิญญาณเหล่านั้นจะปรากฏตัวอยู่นอกระบบความเชื่อของเธอ แต่ถ้าเธอคาดหวังให้วิญญาณผู้เป็นที่รักเหล่านี้อยู่ที่นั่น เธอจะรับรู้ได้ทันที
N: ผมเข้าใจครับ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องมีความชัดเจนในความเชื่อเกี่ยวกับความตาย
G: สิ่งสำคัญในชีวิตก็คือ เธอต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อของเธอเกี่ยวกับทุกสิ่ง ไม่ใช่แค่ความตายของเธอที่จะได้รับผลกระทบจากความเชื่อของเธอ แต่ “ทั้งชีวิตของเธอ” จะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เธอเชื่อด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น